บันทึกเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.30 น. (โดยประมาณ) ณ อาคารรัฐสภา เกียกกาย กรุงเทพ
เช้าวันนั้น คุณแม่คิตตี้กับพี่เอก ได้เข้าร่วมงานสัมมนาที่ห้องประชุมชั้น B1 พอช่วงเที่ยงได้ออกมานั่งทานข้าวบริเวณหน้าห้องสัมมนาหลังจากทานข้าวเสร็จนั่งทำงานกันต่อ
จนกระทั่งเวลาบ่ายโมงกว่าๆ เตรียมตัวที่จะเดินทางกลับเพราะตั้งใจจะไปถวายสังฆทานที่วัดโพสพผลเจริญ จังหวัดปทุมธานี และไปฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเพื่อทาน sizzler โปร 1 + 1
เวลาประมาณ 13.30 น. ช่วงเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว คุณแม่คิตตี้กับพี่เอก เรานั่งหันหน้าฝั่งตรงข้ามกันอยู่ๆ คุณแม่คิตตี้รู้สึกวิงเวียนขึ้นมาทันทีและสายตามองไปด้านหลังของพี่เอกเห็นตึกแกว่งส่ายไปมาเหมือนตึกกำลังโดนพายุพัดกระทบอย่างแรง จากนั้นแรงแก่วงเริ่มเบาลง จนสงบเป็นปกติ เมื่อหันมองด้านซ้ายมือด้านบนซึ่งเป็นหลังคากระจก เพราะกลัวว่าจะแตกลงมา
จากนั้นมีคำถามต่างๆขึ้นมาในความคิดมากมาย จึงพูดกับพี่เอกว่าตึกแกว่งใช่ไหมคะ หรือพายุเพราะเมื่อเช้าฝนตก พี่เอกเวียนหัวเหมือนคุณแม่ไหมคะ หรือแผ่นดินไหวคะ
ทันใดนั้นด้านหลังพี่เอกซึ่งเป็นห้องสัมมนา เห็นชาวต่างชาติผู้หญิงผู้ชายคู่หนึ่งวิ่งเข้าไปในตึก และคนในห้องสัมมนาก็วิ่งรีบเดินออกมา คุณแม่คิตตี้จึงหันไปพูดกับพี่เอกว่ามีออกมาจากห้องสัมมนาแบบบางคนวิ่งออกมา บางคนกึ่งเดินกึ่งวิ่ง
พี่เอกจึงพูดกับคุณแม่คิตตี้ว่าให้ออกจากอาคาร นี่แหละแผ่นดินไหวเพราะพี่เอกเคยมีประสบการณ์แผ่นดินไหวที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนมาแล้ว
คุณแม่คิตตี้พูดกับพี่เอกว่าใช่หรือคะไม่เห็นเขามีประกาศอะไรเลยรอก่อนไหม ยังไม่ไปไหนทั้งนั้น ไม่ไปเพราะไม่รู้ว่าออกไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร
จากนั้นสายตาของเราสองคนก็เห็นคนวิ่งจนออกจากประตูกันอย่างโกลาหลมีเด็กเล็กๆ ด้วย เด็กร้องไห้กระจอ งอแงคุณแม่คิตตี้กับพี่เอกจึงช่วยเจ้าหน้าที่บอกทางแนะนำให้เด็กออกทางประตู เด็กบางคนวิ่งแบบตกใจมากเหมือนจะล้มก็มี ภาพที่อยู่ตรงหน้าเราสงสารเด็กมากค่ะ
เราจึงถามเจ้าหน้าที่ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าแผ่นดินไหวให้ทุกคนออกนอกอาคาร แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีเสียงไซเรนดังขึ้นและยังไม่มีเสียงประกาศแต่อย่างใด
พี่เอกหันมาบอกคุณแม่ว่าเราออกไปข้างนอกกันเถอะครับ คุณแม่คิตตี้จึงขอพี่เอกเข้าห้องน้ำก่อน เพราะเกรงว่าออกไปด้านนอกแล้วจะไม่มีห้องน้ำเข้า
เราจึงควรทำธุระให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า
พอออกมาด้านนอกอาคารได้สักพัก จึงมีเสียงไซเรนและเสียงประกาศให้ทุกคนอพยพออกจากอาคารภายใน 16.30 น. หากคนใดติดอยู่ณจุดใดให้ตะโกนออกมาดังๆเพื่อขอความช่วยเหลือจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ
พี่เอกจึงพาคุณแม่คิตตี้เดินไปที่จอดรถซึ่งรถเราจอดที่ชั้น B2 ลานจอดรถใต้ดินที่อาคารรัฐสภากว้างมากโชคดีที่คุณแม่คิตตี้จะถ่ายรูปกันจอดรถไว้ทุกครั้งเพื่อจะได้ไม่ลืมจุดจอดรถ
ในระหว่างที่เดินทางมาลานจอดรถชั้นใต้ดินเราสองคนจึงปรึกษาหารือกันว่าจะไลฟ์สดผ่าน youtube ดีไหม
จากนั้นจึงตัดสินใจไลฟ์สดผ่าน youtubeโดยพี่เอกจะเป็นคนถ่ายส่วนคุณแม่คิตตี้อยู่หน้ากล้องในช่วงแรก เป็นการไลฟ์สดการประสบแผ่นดินไหวครั้งแรกของเราสองคน
การไลฟ์สด ตลอดการเดินทางกลับบ้านของเรามีผู้ชมคลิปเยอะมากอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน มีผู้ชมคลิปจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเข้ามาเขียนคอมเม้นแนะนำเส้นทางการกลับบ้านให้กับเราเกิน 100 comment
ในช่วงของการเดินทางขับรถผ่านตามจุดต่างๆจะเห็นผู้คนออกมายืนริมถนนมากมาย อาทิ ผู้คนที่อาศัยอยู่บนตึกและคอนโดต้องออกมายืนบ้างนั่งบ้างอยู่ดต็มบริเวณ2 ข้างทาง บางคนต้องเดินเท้ากลับบ้านเนื่องจากรถติดมาก รถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดินMRTหยุดวิ่งให้บริการ ทุกเส้นทาง
ขับรถผ่านห้างสรรพสินค้าจะเห็นได้ว่าปิดทำการ บางจุดมีรถกู้ภัยจอดข้างทางไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
เราสองคนติดอยู่ในรถที่เคลื่อนตัวได้ช้ามากแทบจะหยุดนิ่งตลอดเวลาและไม่รู้สถานการณ์ภายนอกเลยได้แต่สอบถามท่านผู้ติดตามชมไลฟ์สดของเราช่วยแจ้งสถานการณ์ต่างๆให้เราทราบ หลายๆท่านช่วยแจ้งข่าวสารสถานการณ์เราจึงทราบว่ามีตึกถล่มแถวจตุจักรให้เราสองคนหลีกเลี่ยงเส้นทาง
พี่เอกกับคุณแม่คิตตี้ซาบซึ้งใจผู้ชมไลฟ์สดของเราที่ห่วงใย ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นคนไทยรักกันเสมอ
นับว่าเป็นการไลฟ์สดครั้งแรกและยาวนานมากถึง 2 ชั่วโมง 40 นาทีแต่มีคนดูอย่างเหนียวแน่น
ความตั้งใจแรกจะ Live การเดินทางจนถึงบ้าน ซึ่งสาเหตุที่เราต้องปิดการไลท์สดก่อนถึงบ้านเนื่องจากคุณแม่คิตตี้ขับรถยาวนานจนเมื่อยขา และต้องการเข้าห้องน้ำ จึงได้จอดพักที่ตลาดในเมืองทองธานีนับว่าเป็นการขับรถกลับบ้านที่โกลาหลรถติดยาวนานที่สุด
ความตั้งใจที่อยากจะเขียนบันทึกนี้เพราะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของคุณแม่คิตตี้กับประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทย
การเป็นผู้ประสบภัยยังทำให้เรารู้ว่ามีคนคอยช่วยเหลือเราผ่านโซเชียลมีเดียอย่างท่วมท้น คนไทยไม่ทิ้งกันจริงๆค่ะ
ขอบคุณผู้รับชมไลฟ์สดใน YouTube ที่ไม่คาดคิดว่าจะมียอดวิวสูงถึง 89,000 เพราะความตั้งใจแรกอยากจะ live สดเพื่อบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์ไว้เท่านั้น
คุณแม่คิตตี้ต้องขอบคุณพี่เอกที่อยู่ข้างๆกันและจับมือกันเสมอไม่เคยทิ้งกันในช่วงเวลาฝ่าความเป็นความตายที่วิกฤต คุณแม่คิตตี้เลือกรักคนไม่ผิด รู้แล้วว่ารักแท้เป็นอย่างไร
หากวันไหนที่เราสองคนทะเลาะกันขอให้กลับมาอ่านข้อความนี้เพื่อนึกถึงวันที่เรามีกันและกัน.
พร้อมกันนี้คุณแม่คิตตี้และพี่เอก ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้สูญเสียในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยค่ะ
เรื่องเล่าโดย คุณแม่คิตตี้
ศศิภัทร อัมพวรรณ
ศศิภัทร อัมพวรรณ คุณแม่คิตตี้ คุยทุกเรื่อง Dpostup Dnews
#pistupnews #คุณแม่คิตตี้