SONY MUSIC ENTERTAINMENT ประกาศเปิดออฟฟิศใหม่ในประเทศไทย
● กรุงเทพกำลังจะกลายเป็นศูนย์สร้างสรรค์ผลงานของบริษัท โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจความบันเทิงและศิลปินที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานของบริษัทลูก ได้แก่ The Orchard, Sony Music Publishing และ Sony Pictures
● ศิลปินเจน Z ที่กำลังมาแรงอย่าง CDGuntee, TOFFE T!NE เซ็นสัญญากับ Sony Music Entertainment Thailand
Sony Music Entertainment (SME) ออกมาประกาศในวันนี้ว่า บริษัทเปิดออฟฟิศใหม่ในประเทศไทยใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าบริษัทให้ความสำคัญกับตลาดเพลงที่กำลังเฟื่องฟูของประเทศไทย มองว่าวงการเพลงในประเทศเต็มไปด้วยความน่าสนใจ รวมทั้งจับมือกับศิลปินชาวไทยเพื่อช่วยให้พวกเขาดึงศักยภาพสูงสุดในการสร้างสรรค์ผลงานและประสบความสำเร็จในตลาด
จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (International Federation of the Phonographic Industry) อุตสาหกรรมดนตรีของเอเชียเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักติดต่อกันเป็นปีที่สาม โดยเติบโตขึ้น 15.4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าอัตราการเติบโตโดยรวมทั่วโลก ในขณะที่รายได้รวมจากภูมิภาคเอเชียคิดเป็นสัดส่วนถึง 22.9% ของตลาดเพลงทั่วโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเพลงในประเทศไทยที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของรายงานเป็นตัวเลขสองหลักในปี 2022 โดยทำรายได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้เป็นครั้งแรกในปี 2022 และ 90% ของรายได้มาจากการสตรีมมิง นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีส่วนแบ่งรายได้จากการสตรีมมิงติดท็อป 20 ของโลก
สำนักงานแห่งใหม่ของ SME ตั้งอยู่ในทำเลทองของกรุงเทพมหานคร และเป็นเสมือนแหล่งผลิตผลงานสร้างสรรค์ โดยเป็นสถานที่ทำงานของผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน ฝ่ายการตลาด ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และฝ่ายกฎหมาย ช่วยให้ SME สามารถสนับสนุนศิลปินในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว
บ้านใหม่หลังนี้ของ SME ในประเทศไทยเปิดโอกาสให้ศิลปินได้ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญหลัก ๆ ตลอดจนทรัพยากรที่บริษัทนำมารวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้พวกเขาได้สำรวจและเติมเต็มเป้าหมายในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง โดยนอกจากจะเป็นสตูดิโอผลิตคอนเทนต์และห้องเขียนเพลงแล้วสำนักงานแห่งนี้ยังต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างนวัตกรรมข้ามสายงานด้วย ทางสตูดิโอเตรียมเครื่องมือและเทคโนโลยีไว้ให้ศิลปินนำไปใช้ผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูง ตั้งแต่มิวสิควิดีโอขนาดสั้น ไปจนถึงฟุตเทจเบื้องหลัง และมอบพื้นที่ให้ศิลปินนำวิสัยทัศน์ทางดนตรีของตัวเองมาสร้างผลงานเพลงและแสดงความเป็นศิลปินของตัวเองออกมาให้งดงามน่าสนใจ นอกจากนี้ ห้องเขียนเพลงที่ออกแบบและสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ยังเป็นพื้นที่ให้บรรดานักแต่งเพลงและนักดนตรีได้เพลิดเพลินกับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มที่
ในพิธีเปิดออฟฟิศใหม่วันนี้ มีการแสดงจากศิลปินมากมาย และได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของ Sony Music Group ศิลปินชื่อดัง พันธมิตรธุรกิจ และตัวแทนรัฐบาลและอุตสาหกรรมความบันเทิงมาร่วมงาน ศิลปินของ SME Thailand ได้แก่ CDGuntee, _Less, Toffe, T!NE, Nop Pornchamni และ Tor+Saksit ขึ้นแสดงโชว์ผลงานของตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นความหลากหลายมิติทางดนตรีและศิลปินของบริษัท
คุณ Shridhar Subramaniam ประธาน ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการพัฒนาตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางของ Sony Music Entertainment (SME) กล่าวว่า การเปิดประตูเข้าสู่บ้านหลังใหม่ของบริษัทในกรุงเทพมหานคร ตอกย้ำให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับศิลปินมากความสามารถชาวไทยและอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทย
“ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ อุตสาหกรรมดนตรียังมีความน่าสนใจ จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับ Sony Music Entertainment ในการขยายธุรกิจ ฝึกปรือทักษะฝีมือศิลปิน และกำหนดทิศทางของวงการดนตรี อีกทั้งมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย รวมไปถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและความฉลาดล้ำด้านศิลปะของประเทศไทย ยังเป็นสิ่งที่ชนะใจของคนทั่วโลก เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ศิลปินชาวไทยมีศักยภาพในการก้าวขึ้นไปเฉิดฉายบนเวทีโลก และด้วยนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมหลากหลายสาขาของ Sony Music Entertainment เราตั้งใจว่าจะส่งเสริมศิลปินมากความสามารถเหล่านี้อย่างเต็มที่ เพื่อช่วยพวกเขาสร้างสะพานข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรมและเชื่อมต่อกับผู้เสพผลงานทั่วโลก โดยที่ยังคงรากของความเป็นไทยเอาไว้”
คุณ Kanate Permsub ผู้จัดการทั่วไปของ Sony Music Entertainment Thailand กล่าวเสริมว่า “ที่ Sony Music Entertainment Thailand เราเคารพในตัวศิลปินไทยอย่างยิ่ง โดยยอมรับในความสามารถอันล้นเหลือและคุณูปการที่พวกเขามีต่อวงการดนตรี ดนตรีของไทยมีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เด่นชัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของผู้เสพผลงานทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อจัดหาทรัพยากรและโอกาสที่ยอดเยี่ยมมากมายให้แก่ศิลปินในประเทศ เราอยากช่วยสนับสนุนให้ศิลปินไทยได้สำรวจขอบเขตในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง ยกระดับผลงาน และนำเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นไปโชว์บนเวทีโลก ซึ่งเราดำเนินการสิ่งเหล่านี้ผ่านการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทเทคโนโลยีและเครือข่ายโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน และสตูดิโอทันสมัยมากมาย ร่วมกับประสบการณ์หลายสิบปีและความรู้ความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้งของเรา ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้เราช่วยส่งเสริมอนาคตของวงการดนตรีในประเทศไทยได้ครับ”
SME มีทีมงานที่ประจำอยู่ในสำนักงาน ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทรนด์และความเป็นไปในประเทศอย่างลึกซึ้ง นั่นทำให้บริษัทพร้อมสำหรับการสร้างความร่วมมือในระยะยาวและกลายเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทย
Shridhar Subramaniam
ประธาน ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการพัฒนาตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง, Sony Music Entertainment
คุณ Shridhar Subramaniam ดำรงตำแหน่งประธาน ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการพัฒนาตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางของ Sony Music Entertainment โดยประจำอยู่ที่กรุงนิวยอร์กและดูแลบริษัททั้งหมดในเครือ Sony Music Entertainment ทั้งในเอเชียและตะวันออกกลาง คุณ Shridhar มีหน้าที่เกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อกิจการ การร่วมลงทุน การลงทุน และความร่วมมือ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ปรับปรุงกลยุทธ์ด้านความสัมพันธ์กับฝ่ายงานดิจิทัลและพันธมิตรของ Sony Music Entertainment ทั้งในเอเชียและตะวันออกกลาง
คุณ Shridhar เป็นผู้บริหารที่ได้รับความนับถืออย่างมากในอุตสาหกรรม ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ทำงานกับ Sony Music Entertainment เขามีส่วนร่วมในการสร้างการเติบโตและนวัตกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในวงการดนตรี โดยในช่วง 18 ปีที่่ผ่านมา คุณ Shridhar เป็นผู้นำของ Sony Music India และดูแลโปรเจ็กต์ความร่วมมือบางส่วนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ ทั้งในวงการดนตรี โทรทัศน์ และแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งภายใต้การนำของคุณ Shridhar ทำให้ Sony Music India เติบโตกลายเป็นผู้เล่นหลักในวงการดนตรีนานาชาติ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ภาษาฮินดู และดนตรีภาษาท้องถิ่นในภูมิภาค นอกจากนี้เขายังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับศิลปินป๊อปและซื้อสิทธิ์ในผลงานทรงเกียรติมากมาย
หลังจากจบการศึกษาจาก Sydenham College of Commerce & Economics คุณ Shridhar เข้าศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ (MBA) ที่ Case Western Reserve University ในคลีฟแลนด์ ปัจจุบัน คุณ Shridhar อาศัยอยู่ในกรุงนิวยอร์กกับครอบครัว แต่เดินทางไปยังเอเชียและตะวันออกกลางบ่อยครั้ง
คเณศวร์ เพิ่มทรัพย์
คเณศวร์ เพิ่มทรัพย์
ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศ – – Sony Music Entertainment | Entertainment
ประวัติ
คเณศวร์ เพิ่มทรัพย์ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดนตรีและความบันเทิง การวิจัยและการวางแผนกลยุทธ์ การผลิตผลงานสร้างสรรค์ และการเปลี่ยนธุรกิจมาใช้ระบบดิจิทัล
ปัจจุบัน คุณคเณศวร์ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปประจำเทศของ Sony Music Entertainment และทำหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของบริษัทในประเทศไทย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว โดยเป็นหัวเรือใหญ่ในการกำหนดกลยุทธ์ข้ามสายงาน จัดการศิลปินและผลงาน การร่วมมือและการลงทุน ตลอดจนทำงานร่วมกับทีมงานระดับโลกและระดับภูมิภาค เพื่อโปรโมทศิลปินระดับนานาชาติ นอกจากนี้ คุณคเณศวร์ยังประสบความสำเร็จในการก่อตั้งทีมงานมาทำหน้าที่คัดสรร พัฒนา และโปรโมทศิลปินในประเทศ ซึ่งเป็นการขยายดำเนินการของ Sony Music ทั้งในประเทศไทยและตลาดระดับภูมิภาค
ก่อนจะมาทำงานกับ Sony Music คุณคเณศวร์เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์และโซลูชันข้อมูล Mind the Platform ระหว่างทำงานในบริษัทดังกล่าว คุณคเณศวร์ทำงานเกี่ยวกับการให้บริการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ สถาปัตยกรรม ข้อมูลทางธุรกิจ และการตลาดดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นหลัก ซึ่งภายใต้การนำทางของคุณคเณศวร์ บริษัทได้ขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทย สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์
ปัจจุบัน คุณคเณศวร์ดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายองค์กร รวมถึงบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายจัดการศิลปิน (การพัฒนาศิลปิน) และมีบทบาทสำคัญในการคัดสรรและพัฒนาศิลปิน ร่วมมือกับค่ายเพลงและบริษัทโปรดักชันต่างๆ รวมทั้งติดตามการพัฒนาของแพลตฟอร์มดิจิทัล
กลยุทธ์การตลาด และความเป็นเลิศด้านการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมในการโปรโมทและทำงานร่วมกับฝ่ายกฎหมายอย่างใกล้ชิดในเรื่องสัญญาและการจัดการด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดการทำงานที่ผ่านมา คุณคเณศวร์แสดงให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและพัฒนาตัวเองให้เติบโตในอาชีพการงาน เห็นได้จากการที่คุณคเณศวร์จบการศึกษาระดับ Post Graduate Diploma สาขาวิทยาการข้อมูลและแมชชีนเลิร์นนิงจาก Columbia Engineering เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ความเชี่ยวชาญทางสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูล และอัลกอริทึมของแมชชีนเลิร์นนิง รวมทั้งเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพ โปรเจ็กต์จบของคุณคเณศวร์เน้นเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพและการเพิ่มอัตราความสำเร็จให้กับคอลเซนเตอร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม โดยเสนอให้ลูกค้าใช้อัลกอริทึมแมชชีนเลิร์นนิง ซึ่งเพิ่มอัตราความสำเร็จได้ถึง 60%
นอกจากนี้แล้ว คุณคเณศวร์ยังได้รับ Post Graduate Diploma สาขาธุรกิจดิจิทัลจาก Columbia Business School และ MIT Sloan School of Management ทำให้มีความรู้รอบด้านเกี่ยวกับการเปลี่ยนธุรกิจมาใช้ระบบดิจิทัล การตลาดแบบดิจิทัล การบริหารความเสี่ยง และกลยุทธ์แพลตฟอร์มดิจิทัล โดยคุณคเณศวร์ทำโปรเจ็กต์จบการศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลของไปรษณีย์ไทย ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น คุณคเณศวร์ยังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก Fairleigh Dickinson University และปริญญาโทสาขาการตลาดระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยทำคะแนนสูงสุดอยู่ในกลุ่มท็อป 10% ของรุ่น อีกทั้งยังศึกษาระดับ Associate Degree สาขาธุรกิจดนตรีจาก Berklee College of Music ด้วย