“เสธ.หิ” ยัน“รทสช.-บิ๊กตู่”ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง“ชูวิทย์” ล้ม “ภท.”ฝากบอก“อนุทิน” ไม่เคยคิดทำเรื่องแบบนี้ !!
วันที่ 1 มี.ค.66 เวลา 07.30 น.ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสวิจารณ์ว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองรับงานจากพรรครทสช. เพื่อมาล้มพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความยุติธรรม พรรครทสช.จะไปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้อย่างไร ที่มีการโจมตีว่าตนอยู่เบื้องหลัง ก็ไม่รู้ว่าใครไปพูด แต่ขอถามว่านายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์นายกรัฐมนตรีมาเป็นปี วิพากษ์วิจารณ์มาตลอดหลายเดือน ซึ่งถือว่าเสียหายมาก เช่นที่บอกว่า ปล่อยคนใกล้ชิดมาวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด เกิดความเสียหายแต่นายกรัฐมนตรี ก็ใช้วิธีไม่ตอบโต้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ วันที่นายกฯ เปิดตัวเข้าพรรครทสช. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งนายชูวิทย์ก็มาไลฟ์ ต่อว่านายกฯ อยู่ที่ด้านหน้าศูนย์ประชุม 3-4 ชั่วโมง ตนจึงขอถามว่าหากรู้เห็นเป็นใจกัน จะให้คนมายืนด่านายตัวเองนานขนาดนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย
นายหิมาลัย กล่าวต่อว่า นายกฯ ก็บอกว่า นายชูวิทย์ต่อว่าตนมานานเป็นปีแล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจ ตนจึงบอกว่า ก็ขอให้เขามาคุยจะได้เกิดความเข้าใจกัน และนายชูวิทย์ก็ถือว่าเป็นสื่อคนหนึ่งเพราะมีคนติดตามจำนวนมากนายกฯ จึงบอกว่าหากตอบนายชูวิทย์ก็เหมือนตอบประชาชน วันนี้เราต้องถือว่าประชาชนคือนายเรา นี่คือเหตุผลที่ตนไปเชิญนายชูวิทย์เข้ามาพูดคุยกับนายกฯ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และการที่ผู้ใหญ่ให้ตนไปเชิญนายชูวิทย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนรู้ว่าตนกับนายชูวิทย์รู้จักกันมาก่อน โดนคดีก็โดนกันมา นายกฯ จึงมองว่าใครที่จะสื่อสารกับนายชูวิทย์ได้รู้เรื่อง ซึ่งในการพูดคุยสไตล์ใครก็สไตล์มัน นายกฯ ก็สไตล์นายกฯ ชูวิทย์ก็สไตล์ชูวิทย์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ โดยนายกฯ ก็ใจเย็นและได้ชี้แจงว่า เราไม่สามารถไปย้ายคนทุกคนตามที่ชูวิทย์ต้องการ ทำอย่างนั้นไม่ได้ เป็นนายกฯ ต้องมีขั้นตอน ต้องมีการสอบสวนจากตำรวจ แล้วค่อยมาลงโทษกัน และถ้าชูวิทย์มีหลักฐานก็ส่งมา ส่วนเรื่องญาติของนายกฯ ที่ชูวิทย์ออกมาพูดก็ให้ส่งไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการสอบสวนตามปกติ และนายกฯ ก็บอกว่าหากมีอะไรก็ให้มาหานายกฯได้ทันที
“ถ้าผมรู้เห็นเป็นใจกับชูวิทย์ ผมจะยอมให้นายชูวิทย์มายืนด่านาย 3-4 ชั่วโมงหรือ ถ้าผมสั่งนายชูวิทย์ได้ผมก็ต้องสั่งให้หยุดด่านายผม และนิสัยของนายชูวิทย์ ตอนที่ติดคุกด้วยกัน นายชูวิทย์เป็นคนที่ วันๆ ไม่ทำอะไรเดินรอบคุก ดูนั่นนี่ ไม่ได้ต้องการสิทธิพิเศษอะไร อะไรไม่ถูกต้องก็จะพูดออกมาตรงๆ ซึ่งในตอนนั้นผู้คุมกลัวแก และสะดุ้งหมด เพราะกลัวถูกร้องเรียน ผู้คุมจะให้สิทธิพิเศษก็ไม่เอา นี่คือนิสัยชูวิทย์ ตอนหลังไปอยู่โรงพยาบาลเรือนจำ ก็เข็นศพ ก็เลิกร้องเรียน และที่ข่าวบอกว่าผมไปรับชูวิทย์ทุกครั้ง มันทุกครั้งตรงไหน เพราะมีแค่ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์และที่ทำเนียบเท่านั้นใครจะมาพูดใส่ความผมไม่รู้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมผมบ้าง”
เมื่อถามว่า จากกระแสสังคม คนเขาอาจติดใจเห็นว่านายหิมาลัย ไปรับนายชูวิทย์ที่ทำเนียบอีก ทั้งที่มาร้องเรียนเรื่องของพรรคภท.นายหิมาลัย กล่าวว่า ไม่เกี่ยว กรณีที่ทำเนียบเพราะนายชูวิทย์พูดมาก่อนแล้ว โพสต์ว่าจะมาหานายกฯซึ่งผู้ใหญ่ก็รู้ว่าตนรู้จักกับนายชูวิทย์ จึงให้มาดูว่าจะมาหานายกฯ เรื่องอะไร เราจึงทำการบ้าน ว่าก่อนหน้านี้นายชูวิทย์โพสต์เรื่อง จีนเทา บุหรี่ไฟฟ้า สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชรวมถึงกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ที่มีปัญหา ไม่มีเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม จึงได้แจ้งผู้ใหญ่ไปว่า ที่นายชูวิทย์มา น่าจะมาเรียกร้องเรื่องเหล่านี้ เราไม่รู้เลยว่าเขาจะมาพูดเรื่องรถไฟฟ้า ไม่มีการเตี๊ยม ใดๆทั้งสิ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรครทสช.และตนด้วย
นายหิมาลัย กล่าวอีกว่า ทุกเรื่องที่ทางรัฐบาลชี้แจงไปนายชูวิทย์ก็รับฟัง ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่นายชูวิทย์มาร้อง ทางนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่าฝ่ายบริหารไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาหน้าทำเนียบ หากนายพีระพันธ์ุไปรับได้ ก็ไปรับตลอด และที่นายชูวิทย์มานายพีระพันธุ์ก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นข่าวอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การถูกมองว่า การที่นายชูวิทย์มาร้องเรียนเช่นนี้เป็นการเปิดทางเพื่อสมประโยชน์ร่วมกันทางการเมืองนายหิมาลัย กล่าวว่า เปิดทางอย่างไร เพราะนายชูวิทย์ประกาศมาถล่มเรา เพียงแต่เราเตรียมคำตอบที่จะตอบนายชูวิทย์ ตนรู้นิสัยนายชูวิทย์ดี หากไม่พอใจก็จะด่า โกรธ ตนก็ปล่อย เดี๋ยวถ้าหายโมโหอีก 2-3 วัน ก็โทรมาคุยเอง ซึ่งตนก็ไม่เคยเถียง เพราะถ้ายิ่งเถียงยิ่งไปกันใหญ่ ตนคบกับนายชูวิทย์มีหลักการคือให้เกียรติกัน และต้องรับฟัง มีอะไรก็ชี้แจง แก้ไขได้ ก็แก้ไข
“สำหรับผมมาทำงานไม่ได้มาหาศัตรู โดยเฉพาะหาศัตรูที่เป็นผู้ใหญ่กว่า และ สำหรับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมให้ความรักและเคารพมาตลอด ผมไม่เหิมเกริมและคิดชั่ว ผมทำไม่เป็น และนายพีระพันธุ์ ผมทำงานด้วยมา ถ้าไม่พอใจก็จะแสดงออกเลย ไม่มีมาทำอะไรลับหลัง”
เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดอะไรกับนายหิมาลัย บ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า นายกฯ ถือเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีมากๆ ลูกน้องหลายคน ทำผิดพลาดหลายครั้ง ไม่เคยทำให้ลูกน้องเสียน้ำใจ นายกฯจะแบกรับไว้หมดถือว่านายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาที่สุดยอดที่สุด และเป็นผู้บังคับบัญชาที่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างตน ต้องเอาใจให้ 100% เอาตัวเข้าแลกได้ก็ต้องเอาเข้าแลก
“ใครก็ตามที่ไปพูดกับภูมิใจไทยใส่ความว่าผมอยู่เบื้องหลัง เป็นจินตนาการที่ไร้สาระมาก ความคิดชั่วๆ แบบนี้ผมทำไม่เป็น บอกให้เลย และไม่จำเป็นที่จะต้องทำด้วย พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพันธมิตรกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคใหญ่ที่ค้ำจุนความมั่นคงของรัฐบาล ผมมีสติปัญญาพอ การทำแบบนี้มันไม่ใช่ และภูมิใจไทยไม่ใช่คู่แข่งของรวมไทยสร้างชาติเลย และถ้าไม่ใช่คู่แข่งทำไปจะได้ประโยชน์อะไร”
เมื่อถามว่าส่วนตัวได้เคลียร์ใจกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า “ผมพยายามโทรหาท่าน แต่ท่านก็ไม่รับสาย เมื่อไม่รับสาย เราก็ไม่รู้ว่าจะชี้แจงอย่างไร ที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ เราเป็นเด็กเราไม่ทะเลาะกับใคร กับนายชูวิทย์เราก็ทะเลาะด้วยไม่ได้ ก็ต้องให้เกียรติพี่เขา และหลายสิ่งที่นายชูวิทย์ทำมันก็เป็นประโยชน์
เมื่อถามว่าต้องการสื่อสารอย่างไรถึงนายอนุทินหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า ” ก็ต้องบอกท่านรองฯอนุทินว่า ผมคิดเรื่องเลวๆไม่เป็นหรอก”
///////////////////////////