วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 — นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงผลการปราบปรามการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายครั้งใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 159 ล้านบาท โดยประกอบด้วยการจับกุม ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (ก๊าซหัวเราะ), สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า, และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเข้มงวดในการ “ปกป้องสังคมจากสินค้าผิดกฎหมาย” ของกรมศุลกากร
การแถลงข่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ โดยมีผู้บริหารหลายหน่วยงานร่วมแถลง อาทิ นางสาวสุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร, นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา, นายแถมสิน ศรีบางพลีน้อย รองผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ และนางสาวอรอนงค์ ตัณฑวิวัฒน์ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
จับกุมสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท
ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ตรวจสอบสินค้านำเข้าจากประเทศจีนที่สำแดงว่าเป็น “สินค้าเบ็ดเตล็ด” แต่จากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่ามีสินค้าจำนวนหนึ่งไม่ได้ระบุในใบขนสินค้า และยังเป็น สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ได้แก่ รองเท้าแตะ แบตเตอรี่ กระเป๋า และแก้วเก็บอุณหภูมิ รวมกว่า 18,175 ชิ้น มูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 55 ล้านบาท
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2565 ว่าด้วยการห้ามนำเข้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
สกัดก๊าซหัวเราะ 2,670 ชิ้น มูลค่า 44 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (Nitrous Oxide) จำนวน 2,670 ชิ้น มูลค่ากว่า 44 ล้านบาท นำเข้าจากประเทศจีนโดยไม่ได้สำแดงในใบขนสินค้า ซึ่งก๊าซชนิดนี้จัดเป็น ยาควบคุมตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 ใช้ในทางการแพทย์เพื่อดมสลบ แต่หากใช้ในปริมาณมากจะส่งผลต่อระบบประสาท อาจทำให้มึนงง อาเจียน และถึงขั้นเสียชีวิตได้
ยึดเฮโรอีน 20 กิโลกรัม มูลค่า 60 ล้านบาท ที่ด่านหนองคาย
ล่าสุด วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ สำนักงานศุลกากรหนองคาย ตรวจพบ เฮโรอีน น้ำหนักรวม 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางของหญิงไทย 2 ราย ที่ด่านพรมแดนหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และ ประมวลกฎหมายยาเสพติด
กรมศุลกากรเผยยอดจับกุมสินค้าผิดกฎหมายปี 2568 รวมกว่า 3,000 ล้านบาท
นายพันธ์ทอง ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568) กรมศุลกากรสามารถจับกุมสินค้าผิดกฎหมายได้กว่า 48,711 ราย มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
เฉพาะเดือนตุลาคม 2568 เพียงเดือนเดียว จับกุมเพิ่มอีกกว่า 3,388 ราย มูลค่า 170 ล้านบาท โดยสินค้าต้องห้ามที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย
-
เมทแอมเฟตามีน มูลค่า 21 ล้านบาท
-
บุหรี่ มูลค่า 20 ล้านบาท
-
โคคาอีน มูลค่า 16 ล้านบาท
-
สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มูลค่า 12 ล้านบาท
-
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่า 6 ล้านบาท
ส่วนสินค้าส่งออกที่ถูกจับกุม ได้แก่ กัญชา เฮโรอีน ทองคำ และแอมเฟตามีน รวมมูลค่ากว่า 28 ล้านบาท
เดินหน้าพัฒนาระบบตรวจสอบให้ทันสมัย – ป้องกันสังคมไทยจากสินค้าผิดกฎหมาย
อธิบดีกรมศุลกากรย้ำว่า หน่วยงานจะยังคงเดินหน้าปรับปรุงระบบตรวจสอบสินค้าให้ทันสมัยตามมาตรฐานสากล โดยไม่เพิ่มภาระแก่ผู้ประกอบการสุจริต พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้าน การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย อย่างเข้มข้น เพื่อคุ้มครองสังคมไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางเศรษฐกิจและสุขภาพ
